ร้าน โจ คอนสาร
www.jokonsarn.99wat.com
0806698987
jokonsan

        สวัสดีครับ ผม โจ คอนสาร ยินดีให้บริการ พี่ๆทุกท่านครับ บริการด้วยใจ ส่งไว รวดเร็ว รับประกันความพอใจภายใน  7  วันในทุกกรณีขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมร้านพระของผมน่ะครับ

 
หลวงพ่อ วัดสวนหมาก ( พระครูโอภาสสารภูมิ )


  ส่งข้อความ

ชื่อร้านค้า
โจ คอนสาร
โดย
โจคอนสาร
ประเภทพระเครื่อง
พระเครื่องสายอีสาน
ชื่อพระ
หลวงพ่อ วัดสวนหมาก ( พระครูโอภาสสารภูมิ )
รายละเอียด
หลวงพ่อ วัดสวนหมาก
ชาติภูมิพระครูโอภาสสารภูมิ นามเดิม คำเถิง เชื้อสามารถ เกิดเมื่อวันที่ 13มกราคม พ.ศ. 2444 ตรงกับวันอังคาร ขึ้น 10 ค่ำ เดือนยี่ ปีฉลู ที่บ้านม่วง หมู่ที่ 8 ตำบลคอนสาร อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ บิดาชื่อ นายมา มารดาชื่อ นาง แหล้ เชื้อสามารถ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด12คน ท่านเป็นคนที่9 บรรพชาอุปสมบทพ.ศ. 2463 บรรพชาเป็นสามเณรพ.ศ. 2464 ลาสิกขาพ.ศ. 2465 อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมา วัดเจดีย์ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ พระอธิการอินทร์ เป็นอุปัชฌาย์ พระคำมี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระบุญมาเป็นพระอนุสาวนาจารย์ได้รับฉายา จนฺทโน คงจะแปลว่า ผู้งดงามดุจจันทร์ วัดที่ท่านเคยจำพรรษา พ.ศ.2465-2467 วัดหนองม่วง ต.คอนสารอ.คอนสาร จ.ชัยภูมิพ.ศ. 2468-2470 วัดสีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ท่านได้ไปพักแลกเปลี่ยนวิชา ที่วัดบัวบาน บ้านบัวพักเกวียน อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ กับสายวิชาท่านอาจารย์ใหญ่ผู้ทรงอภิญญานั่นคือ พระครูถาวรศีลวัตร มีศิษย์ร่วมสำนักคือ พระครูถาวรคีรีวัฒน์ วัดนครบาล พ.ศ. 2471-2476 วัดหนองม่วง ต.คอนสาร อ.คอนสาร จ. ชัยภูมิพ.ศ. 2477-2525 วัดสวนหมาก(วัดดาวเรือง) อ.คอนสาร จ. ชัยภูมิ วิทยฐานะ พ.ศ. 2469 สอบได้นักธรรมชั้นตรีพ.ศ. 2499 สอบได้นักธรรมชั้นโท งานปกครองพ.ศ. 2481 ได้รับแต่งตั้งเป็นอุปัชฌาย์พ.ศ. 2498 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดสวนหมากพ.ศ. 2503 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอคอนสาร สมณะศักดิ์พ.ศ. 2498เป็นพระครูโอภาสสารภูมิพ.ศ. 2519 เป็นพระครูสัญญาบัตร ชั้นเอก งานบริหารกิจกรรมพระศาสนา- ขอจัดตั้งสำนักศาสนศึกษาปริยัติธรรมขึ้นหลายสำนักในเขตอ.คอนสาร- เป็นพระธรรมทูตฝ่ายอำนวยการ อบรมศีลธรรมและวัฒนธรรมแก่ประชาชน- เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในการดำเนินการก่อสร้างศาสนสถานในเขต อ.คอนสาร สมณะวัตร พระครูโอภาสสารภูมิ เป็นพระมหาเถระที่มักน้อยสันโดษมีคุณธรรมประจำใจอันสูงส่ง ปราศจากความมักใหญ่ใฝ่สูง อุทิศเวลาและความสุขส่วนตนเพื่อพระศาสนาและสาธุชนทุกถ้วนหน้า ไม่เลือกชั้นวรรณะ สงเคราะห์ อนุเคราะห์ เพื่อนมนุษย์ที่เข้าไปหาโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆเลยได้ปฏิบัติศาสนกิจเสมอมาถึงแม้ว่าสังขารท่านจะร่วงโรยไปตามวัยก็ตามโดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าน ฉันเอกา โดยเคร่งครัดขนาดมีโยมเอาส้มเกลี้ยง(ส้มเขียวหวาน)มาให้ท่านในกุฏิ ท่านฉันเอกาแล้วจึงกลิ้งส้มเกลี้ยงกลับคืน ท่านทำตัวมีขันติเป็นตัวอย่างที่ดี วาระสุดท้าย ในช่วงเช้าของวันที่ 4 มกราคม 2525 พระภิกษุและสามเณรที่อุปัฏฐากท่าน ได้เข้าไปในห้องของท่าน แต่ปรากฏว่าท่านมรณภาพบนที่นอนของท่านด้วยอาการอันสงบ รวมศิริอายุได้ 81 พรรษามีปัจจัยในถุงย่ามท่านไม่ถึง20บาท ซึ่งบ่งบอกถึงความไม่ยึดติดในวัตถุใดๆของท่าน กำนันหาญมาช่วยยิงปืนบอกโยมตรงกลางชายคากุฏิปืนไม่ลั่น ต้องออกมายิงข้างต้นขนุนปัจจุบันยังมีอยู่ ต้นประคำดีควายที่หลวงพ่อผ่านไปบิณฑบาตรทางทิศใต้เฉาตายพร้อมๆงานพระราชทานเพลิงท่านดุจไว้อาลัยให้กับท่าน ต้นพิกุลที่อยู่ทิศตะวันตกเหมือนรอรับท่านมาจากบิณฑบาตรนั้น ยังส่งกลิ่นหอมให้ผู้ที่มาทำบุญดุจประกาศความดีของท่านให้ชนรุ่นหลังนึกถึงคุณงามความดีของท่านเสมอตราบนิจนิรันดร์ใต้ถุนศาลาที่ท่านบ้วนชานหมากเปรียบเหมือนท่านไม่ประมาทในกาลเวลา ยังเฝ้าดูลูกหลานอยู่เสมอ คอยปกปักรักษาผู้มาทำบุญที่วัดสวนหมาก ดังปณิธานเดิมที่ท่านช่วยคนในทางอ้อม แม้ท่านจะละสังขารจากพวกเราไปนานแล้วก็ตาม
วัตถุมงคล

เหรียญ

1.เหรียญรุ่นแรก เป็นรูปไข่ ผิววรรณะของเหรียญออกไปทางทองผสมมีกะไหล่ทองให้เห็นบ้างบางเหรียญ ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อห่มคลุมครึ่งองค์กำลังเคี้ยวหมากซึ่งเป็นมูลเหตุให้บางคนเรียกท่านว่า “หลวงพ่อปากเบี้ยว” มีคำเขียนล้อมครึ่งบนหลวงพ่อไว้ว่า “ พระครูโอภาสสารภูมิเจ้าคณะอำเภอคอนสาร ” ด้านหลังเป็นอักษรขอมเขียนเรียงเป็น 5 แถว เรียงจากบนลงล่าง ถอดเป็นภาษาไทยใจความว่า “ อุ มะอะ อิสวา สุ นะโมพุท ธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ ” แถวที่ 6 เป็นภาษาไทย อ่านว่า “ วัดสวนหมาก” มูลเหตุในการสร้างเหรียญ เนื่องด้วยกุฏิไม้ที่ท่านอาศัยอยู่นทรุดโทรมมาก พระ 3 รูปที่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อคือ 1.พระอาจารย์บิน 2.พระ อาจารย์ตื้อ 3.พระมหาบุญเกิด( พ่อมหาบุญเกิด แพงจันทร์ ผู้ให้ข้อมูล)จึงปรึกษากันว่าจะทำเหรียญ แล้วนำรูปถ่ายไปเป็นต้นแบบโดยไปว่าจ้างช่างที่กรุงเทพ แถวเสาชิงช้า จำนวนที่สร้างราว 5,000 เหรียญ ปี ที่สร้างประมาณพ.ศ. 2505 แล้วนำมาให้หลวงพ่อแจกญาติโยม หลวงพ่อก็แจกอย่างเดียวโดยไม่สนใจปัจจัยสิ่งตอบแทนใดๆเลยทำให้เหรียญหมดลง โดยไม่มีปัจจัยที่จะมาบูรณะกุฏิเลย เมื่อหลวงพ่อเจอกับครูบุญเกิด ( พ่อมหาบุญเกิดลาสิกขาบทแล้ว มารับราชการครู)อีกครั้งก็บอกว่า “ เหมิดล่ะ ! ’’ หมายถึงเหรียญหมดแล้ว แล้วหลวงพ่อก็หัวเราะด้วยความเมตตาซึ่งบ่งบอกถึงความไม่ยึดติดในวัตถุใดๆของท่าน

2. เหรียญรุ่นสอง เป็นเหรียญรูปไข่เนื้อทองแดงชุบนิเกิ้ลคล้ายๆกะไหล่เงิน ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อนั่งเต็มองค์ ล้อมรอบครึ่งบนหลวงพ่อด้วยคำที่เขียนว่า “ วัดสวนหมาก อ. คอนสาร จ.ชัยภูมิ ” ด้านล่างใต้องค์หลวงพ่อนั่งเขียนคำว่า “พระครูโอภาสสารภูมิ” ถัดลงไปอีก 1 แถวใต้สุดเป็นรูปลายกนกหัวชนกัน 1 คู่ในแนวนอน ด้านหลัง เป็นอักษรขอมเขียนเป็น 5 แถว เรียงจากบนลงล่างถอดความเป็นภาษาไทยว่า “ มะอะอุ อิสวาสุ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ ” เหรียญรุ่นสองนี้หลวงพ่อเป็นคนบอกให้สร้างเองเนื่องจากเหรียญรุ่นแรกหมดไม่พอแจกกัน วัตถุประสงค์เพื่อเอาไว้แจกอีกนั่นแหละ จำนวนที่สร้างนั้นผู้เขียนไม่มีข้อมูลอ้างอิง สำหรับปีที่สร้างราวๆปี พ.ศ. 2510

ส่วนเหรียญรุ่นสร้างศาลารูปแบบคล้ายกับเหรียญรุ่นแรกแต่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเพราะเป็นคน ละพิมพ์ อีกทั้งยังระบุไว้ในเหรียญด้านหน้าว่า “ รุ่นสร้างศาลา ” สร้างในสมัยพระอาจารย์ลื่นเป็นเจ้าอาวาสปลายปี 2538 ไม่ทันหลวงพ่อ ขอย้ำไม่ทันหลวงพ่อครับ ตอนสร้างเหรียญนี้ผู้เขียนยังรับราชการอยู่ที่คอนสาร

เครื่องรางของขลัง

หลวงพ่อได้สร้างเอาไว้มากมายเช่นตระกรุด ของทนสิทธิ์ต่างๆตามธรรมชาติเช่นงาแกะ เขากวางหด เขี้ยวหมูตัน ที่ชาวบ้านหามาให้ท่านปลุกเสกเนื่องจากคอนสารนั้นเป็นดินแดนป่าเขาลำเนาไพร ไกลปืนเที่ยงผู้คนหวังพึ่งพุทธคุณจากวัตถุมงคลเพื่อใช้เป็นกำลังใจในการดำเนินชีวิต และที่เด็ดสุดคือ คำหมาก หรือชานหมาก ของท่านใครมีไว้ ต่างหวงแหนยิ่งนัก เก็บไว้บูชาจากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่งทีเดียว

เรื่องเล่าด้วยศรัทธาในตัวหลวงพ่อ

เรื่องเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนได้ยินได้ฟังมาสมัยที่ยังทำงานในพื้นที่ คอนสารโปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน หวังว่าหากเกิดศรัทธาคงประกอบกรรมดี คิดดี ทำดี ตามอย่างแนวทางของหลวงพ่อ หาได้มอมเมาเรื่องวัตถุมงคลอันนำไปสู่อวิชชาความไม่รู้แก่นแท้แห่งธรรมจนกลายเป็นหลง งม งาย จนลืมกฎแห่งกรรม “ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” ไม่

ฝนตกไม่เปียก

ครั้งนั้นมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งของอำเภอได้รับคำสั่งโยกย้ายตามวิถีราชการ ชาวบ้าน ข้าราชการ

และหลวงพ่อก็ถูกนิมนต์ให้ร่วมขบวนไปส่งดัวย ระหว่างทางฝนตกหนัก รถติดหล่ม ทุกคนลงจากรถมาช่วยเข็น หลวงพ่อลงมายืนดูเพื่อเป็นกำลังใจ ท่ามกลางสายฝน สักพักพอรถขึ้นจากหล่มได้แล้ว ในขณะที่ทุกคนกลับไปขึ้นรถด้วยความเปียกปอนจากสายฝนถ้วนทั่วกันทุกคน มีสี่งหนึ่งที่ผิดปกติคือ ในขณะที่หลวงพ่อเดินผ่านหน้าทุกคนไปขึ้นรถนั้น จีวรของหลวงพ่อรวมทั้งตัวของหลวงพ่อเอง หาได้เปียกฝนแม้แต่น้อยไม่ แต่กระนั้นท่านยังได้สลัดจีวรของท่านเพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจพร้อมกับพูดอย่างยิ้มๆเป็นภาษาคอนสารว่า “ เปี๊ยกคือกันน๊ะ !”ทั้งที่ตัวท่านไม่เปียกเลยแม้แต่น้อย

ย่นระยะทาง

หลวงพ่อกับพระลูกวัดได้รับกิจนิมนต์ที่อำเภอภูเขียว หนทางในสมัยนั้นเป็นป่าเป็นดงใช้เวลาเดินทางเป็นวันต่างจากปัจจุบันประมาณ 30 นาทีโดยรถยนต์ ท่านได้ให้พระเณรเดินทางล่วงหน้าไปก่อน ส่วนตัวท่านนั้นยังนั่งคุยอยู่กับญาติโยมที่วัด เมื่อคณะเดินทางไปถึงที่หมายก็พบว่า หลวงพ่อมาถึงและนั่งรออยู่ก่อนแล้ว จากเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความแปลกใจให้กับคณะเป็นยิ่งนัก เมื่อกลับมาถึงวัดบรรดาพระเณรได้เพียรถามหลวงพ่ออยู่หลายครั้งแต่หลวงพ่อก็ไม่ตอบว่ากระไร

ล่องหน

มีอยู่ครั้งหนึ่งมีการพิสูจน์อะไรซักอย่าง คล้ายๆจะเป็นการลองวิชา ท่านกับพระเกจิอีกอีก 1รูปอยู่ในโบสถ์แล้วปิดประตูหน้าต่างลงกลอนลั่นดารทั้งหมด ก่อนเข้าไปท่านได้สั่งให้คนเฝ้าประตูหน้าต่างอยู่นอกโบสถ์ทั้งสี่ด้าน พอเวลาผ่านซักไประยะหนึ่ง ปรากฏว่าเห็นท่านพร้อมเกจิรูปนั้นออกมาอยู่ด้านนอกโบสถ์แล้ว โดยทุกคนที่เฝ้าอยู่ก็ไม่รู้ว่าท่านออกมาได้อย่างไร ทางไหน เมื่อไหร่ ทั้งที่ประตู หน้าต่างของโบสถ์ก็ยังปิดสนิทอยู่ดังเดิม

สหธรรมิก

หลวงพ่อมีสหธรรมิกอยู่หลายรูปและที่สำคัญมีอยู่รูปหนึ่งคือ หลวงพ่อทบ วัดชนแดน เนื่องจากคอนสารติดกับเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ทางด้านอำเภอหล่มสัก อำเภอน้ำหนาวซึ่งไม่ไกลจากอำเภอชนแดนมากนัก ประสบการณ์จากวัตถุมงคล

หลายคนที่มีวัตถุมงคลของหลวงพ่อบูชาติดตัวต่างประสบพบเห็น มีประสบการณ์ต่างๆนานา มากมายไม่ว่าจะเป็นแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม ซึ่งขึ้นอยู่กับคุณงามความดี ศิลธรรม กรรมเวร กรรมหนักกรรมเบา ของแต่ละบุคคลประกอบกันไป บางรายก็ผ่อนหนักเป็นเบา เช่นหลายๆรายมีเหรียญรุ่น 1 ถูกยิงแล้วไม่เข้า ถูกฟันไม่เข้าบ้าง ห้อยเหรียญรุ่น 2 แล้วโดนฟ้าผ่าแล้วไม่เป็นไร บูชาพระของหลวงพ่อแล้ว ค้าขายดีมีกำไร บ้าง เรื่องราวเล่านี้ถูกถ่ายทอดปากต่อปากทำให้ของของท่านเป็นที่รู้จักและเป็นที่ต้องการของผู้คนจำนวนมากและโด่งดังเงียบๆมาเป็นเวลาช้านาน ทั้งๆที่ผ่านมาเรื่องราวของท่านไม่ได้ถูกตีพิมพ์ลงนิตยสารหรือสื่อสิ่งพิมพ์ใดๆเลยนอกจากหนังสืออนุสรณ์วันพระราชทานเพลิงศพเพียงเท่านั้นเอง

สำหรับที่มาของวิชาอาคมของหลวงพ่อนั้น คุณพ่อมหาบุญเกิด แพงจันทร์ ได้กรุณาให้ข้อสังเกตไว้ว่า นอกจาก ตำรับตำราจากสมุดข่อยโบราณ หนังสือใบลานเก่าของชาวคอนสารแล้ว ยังมีการแลกเปลี่ยนวิชาจากสหธรรมิก และสายวิชาจากโคราชเมื่อครั้งเดินธุดงค์ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดสีคิ้วเมื่อครั้งปี พ.ศ .2468- พ.ศ.2470
ราคา
โชว์พระ
เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ
0806698987
ID LINE
jokonsan
จำนวนการเข้าชม
7,940 ครั้ง
บัญชีธนาคารที่ใช้ยืนยันตัวตน
ยังไม่ส่งข้อมูล